Strength Training สำหรับนักกีฬา Endurance Sports

การฝึกความแข็งแรงส่งผลดีต่อ endurance performance ซึ่งสามารถฝึกร่วมกับการวิ่ง ปั่น ว่าย หรือไตรกีฬา โดยแบ่งเป็นช่วง pre-season, in-season และ off-season
Picture of Tham Thaiyanont, MS, CSCS
strength-training-for-endurance-sports-featured-img
แยกอ่านทีละหัวข้อ

การฝึก Strength Training ใน นักกีฬา Endurance Sports (เช่น นักวิ่งระยะไกล, นักจักรยาน, นักไตรกีฬา) เป็นอะไรที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก

 

เพราะด้วยรูปแบบที่อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ว่า ไปยับยั้งการพัฒนาของการฝึก Endurance Training หรือ Aerobic Endurance

 

และด้วยปริมาณการฝึก Endurance ที่มีมากในแต่ละสัปดาห์ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้นักกีฬากลุ่มนี้ไม่ค่อยที่จะได้ฝึก Strength Training กันเท่าไหร่

ประโยชน์ของ Strength Training

ในช่วง 10 ปีให้หลังมา งานวิจัยในเรื่องดังกล่าวก็ออกมาในแนวทางเดียวกันมากขึ้นนะครับ ว่าการฝึก Strength Training นั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่อง Endurance Performance เช่นเดียวกัน ไม่ได้ไปยับยั้งแต่อย่างใด


ประโยชน์ของ Strength Training ได้แก่

  1. Power Output
  2. Endurance Performance
  3. Running Economy
  4. Prevent Injury
  5. Motor Control
  6. Movement Efficacy

Strength Training สำหรับนักกีฬา

strength-training-log
ตัวอย่างการบันทึกการฝึก Strength Training

ที่ผ่านมานักกีฬากลุ่มนี้ก็หันมาเพิ่มการฝึก Strength Training มากขึ้นในโปรแกรมของตัวเอง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีครับ สัปดาห์ละครั้ง 2 ครั้ง ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่ดีก็ควรวางแผนฝึกแบบจริงจัง

 

รูปแบบการฝึก Strength Training ก็จะมีวิธีการ ลักษณะความหนักที่แตกต่างออกไปในแต่ละช่วง เช่นเดียวกับการฝึก Endurance Training

 

ในบทความนี้ได้มีการยกตัวอย่างรูปแบบการฝึกที่เหมาะสมแบบคร่าวๆ สำหรับนำไปฝึกร่วมกับการวิ่ง การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ หรือการซ้อมไตรกีฬา

 

การแบ่งช่วงเวลาการฝึกซ้อมโดยทั่วไปๆ จะแบ่งเป็น Pre-season, In-season และ Off-season ซึ่งระยะใดจะกว้างแค่ไหนนั้น ก็อยู่ที่นักกีฬาแต่ละคนหรือทีมแต่ละทีม

ช่วงเวลาการฝึกซ้อมของนักกีฬา

1) Pre-season

Pre-season คือ การเตรียมความพร้อมร่างกายให้เหมาะสมกับชนิดกีฬา สำหรับการฝึก Strength Training ช่วงนี้จะเป็นช่วงพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ จะแบ่งออกไปได้อีก 4 ช่วงเวลาการฝึกซ้อม

 

  1. Anatomical Adaptation Phase – การปรับสภาพร่างกาย
    หากเป็นนักกีฬาที่มีพื้นฐานการฝึก Strength Training มาน้อย ช่วงนี้จะเป็นเริ่มต้น ในการฝึกท่าออกกำลังกายต่างๆ ให้ถูกต้อง จะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์
  2. Hypertrophy Phase – การเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อ
    แต่ถ้ามีพื้นฐานการฝึก Strength Training มาอยู่บ้าง ทำท่าออกกำลังกายได้อย่างถูกต้อง สามารถมาฝึกที่รูปแบบนี้ได้เลย โดยเป็นการเน้นการเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อให้พร้อมต่อการฝึกความแข็งแรงในช่วงต่อไป จะใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์
  3. Muscular Strength – การเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
    จะเป็นการฝึกเพื่อเพิ่มแรงที่กล้ามเนื้อนั้นสามารถออกแรงได้สูงสุด จะใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์
  4. Power Conversion – การพัฒนาความแข็งแรงสูงสุดไปเป็นพละกำลัง (Power)
    ท่าออกกำลังกายและรูปแบบที่ใช้จะเป็นลักษณะ Explosive Exercise 6-8 สัปดาห์

2) In-season

In-season คือ ช่วงเวลาในที่ใกล้การแข่งขัน เป็นช่วงที่จะมีปริมาณการฝึกที่น้อยกว่าช่วง Pre-season แต่จะยังคงมีความหนักมากขึ้นเรื่อยๆ

 

เป็นการรักษาความแข็งแรงและพละกำลังของกล้ามเนื้อที่พัฒนาในช่วงแรกนั้น ยังคงอยู่ไปจนถึงการแข่งขัน แล้วไปให้ความสำคัญกับการฝึกระบบพลังงานที่ต้องใช้ และรูปแบบการแข่งขันมากขึ้น

3) Off-season

Off-season คือ ช่วงพักจากการแข่งขัน เป็นช่วงที่สำคัญอีกเช่นกันที่ร่างกายของเราจะได้พัก แต่การพักก็ต้องพักอย่างเป็นระบบ

 

นักกีฬาก็ยังคงต้องมีการซ้อมอยู่ครับ ไม่ควรจะหยุดไปเลย แต่มักจะใช้เป็นลักษณะการออกกำลังกายแบบทั่วๆไป ยังมีการฝึก Strength Training เพื่อรักษาระดับกล้ามเนื้อและความแข็งแรง และควรมีการเล่นกีฬาชนิดอื่นๆ แทนชนิดกีฬาที่เล่นอยู่ เพื่อให้ร่างกายได้เปลี่ยนไปใช้การเคลื่อนไหวในแบบอื่นๆ บ้าง

ตัวอย่าง Strength Training Plan สำหรับนักกีฬา

CC Sample Endurance Sport Strength Training
ตัวอย่างการฝึก Strength Training ในช่วงเวลาการฝึกต่างๆ สำหรับนักกีฬา Endurance Sport

ตารางนี้เป็นตัวอย่างการฝึก Strength Training ในช่วงเวลาการฝึกต่างๆ สำหรับนักกีฬา Endurance Sport จะมีท่าออกกำลังกาย จำนวนวันที่ฝึกต่อสัปดาห์ จำนวนครั้ง จำนวนเชต ให้ได้เป็นแนวท่าในการฝึกแบบคร่าวๆ นะครับ

 

ลองเอาตัวอย่างท่าในตารางไปลองฝึกกันดูนะครับ

“การฝึกความแข็งแรงเป็นพื้นฐานของนักกีฬาทุกประเภท รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ดูแลสุขภาพด้วย”

WRITTEN BY